10 Landmark เชียงใหม่ ไม่ไปคือพลาด!
#The Localized
0
กำลังได้รับความสนใจ
สถานที่น่าสนใจ 10 แห่ง

แผนที่

วัดพระธาตุดอยสุเทพ
วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดในเชียงใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ความโดดเด่นของวัดพระธาตุดอยสุเทพ เริ่มตั้งแต่ทางขึ้นพระธาตุซึ่งเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน และเมื่อเดินเข้าไปภายในวัด จะพบเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูง ย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยม ปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ซึ่งก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา บริเวณวัดยังเป็นจุดชมวิวเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน และที่วัดพระธาตุดอยสุเทพยังมีการจัดงานประเพณีเตียวขึ้นดอย เพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุเป็นประจำทุกปี โดยจัดขึ้นในช่วงวันวิสาขบูชา ในงานจะมีขบวนแห่น้ำสำหรับสรงพระธาตุ โดยมีพระสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชนจากชุมชนต่าง ๆ มาร่วมขบวนกันอย่างเนืองแน่น
0
วัดผาลาด (สกทาคามี)
วัดผาลาด (สกทาคามี) วัดผาลาดเป็นวัดป่า 1ใน 3 วัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย วัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 500 ปี เคยถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าไป แต่ก็ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ให้มีสถานภาพเป็นวัดและสถานที่ปฏิบัติธรรม ส่วนสาเหตุที่ตั้งชื่อว่าวัดผาลาดนั้น ผู้เฒ่า ผู้แก่บางท่านเล่าว่า เดิมเรียกว่า ผะเลิด เพราะคนที่ดินตามช้างมาตามลำธารน้ำตก แล้วเกิดลื่นหกล้มกันหลายคน บ้างก็ว่าช้างก็ลื่นเหมือนกัน จึงให้ชื่อว่าวัดะเลิด ต่อมาเรียกว่าวัดผาลาด ตามชื่อน้ำตก การเดินทางมาวัดผาลาด ใช้เส้นทางเดียวกับการขึ้นดอยสุเทพ โดยวัดอยู่ห่างจากอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยประมาณ 5 กิโลเมตร ถือเป็นวัดที่มีประวัติยาวนาน มีตำนานเรื่องเล่า และเป็นหนึ่งในวัดที่ร่มรื่นเป็นอย่างมากที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาแวะเที่ยวชมไม่แพ้วัดพระธาตุดอยสุเทพเลย ขอบคุณข้อมูลจาก : www.chiangmainews.co.th
0
ดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน อ่างกา
ดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน อ่างกา บนดอยอินทนนท์ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่คนนิยมไปเดิน อยู่ 2 เส้นทาง ได้แก่ 1. เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา และ 2. เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน สองเส้นทางนี้มีระยะทางที่แตกต่างกันพอสมควร เส้นทางฯ อ่างกาเป็นเส้นทางสั้นๆ ใช้เวลา 30-60 นาที ส่วนเส้นทางฯ กิ่วแม่ปานใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง “เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา” อยู่ไม่ไกลจากป้าย “สูงสุดแดนสยาม” ส่วน “กิ่วแม่ปาน” เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เป็นวงรอบระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและ ทะเลหมอกที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของดอยอินทนนท์ ขอบคุณข้อมูลจาก : www.banloung.go.th ขอบคุณรูปภาพจาก :https://travel.kapook.com/view137488.html
0
น้ำพุร้อนสันกำแพง
น้ำพุร้อนสันกำแพง การได้แช่น้ำอุ่นนั้นเป็นความสุขที่หลายคนชื่นชอบและปรารถนา และหากเป็นน้ำแร่ที่ดีต่อสุขภาพด้วยแล้วก็ยิ่งดีมากขึ้น ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยหลายแห่งที่เป็นบ่อน้ำร้อน หรือเป็นน้ำพุร้อน และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้อาบและแช่น้ำอุ่น ซึ่งที่น้ำพุร้อนสันกำแพงก็เช่นกัน น้ำพุร้อนสันกำแพง (San Kamphaeng Hot Springs) จะมีน้ำพุที่พุ่งสูงราว 20 เมตรอยู่ 2 บ่อ ซึ่งมีความร้อนกว่า 100 องศาเซลเซียส แต่ละอองของน้ำพุที่ลมพัดมาสัมผัสเรานั้นจะไม่มีความร้อนเหลือแล้ว ที่ตั้งของน้ำพุร้อนสันกำแพง เดิมเป็นเขตพื้นที่ของอำเภอสันกำแพง (San Kamphaeng) จังหวัดเชียงใหม่ จึงตั้งชื่อตามนั้น แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงเขตการปกครอง กลายเป็นเขตพื้นที่ของอำเภอแม่ออนแทน แต่ก็ยังใช้ชื่อเก่าเช่นเดิม กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวมักทำเมื่อมาเยือนน้ำพุร้อนก็คือการต้มไข่เพื่อทดสอบความร้อนของน้ำ ลองต้มลองกินกันแล้วก็ลองไปแช่น้ำอุ่นดูบ้าง ซึ่งก็มีให้เลือกแช่หลายแบบ ทั้งนั่งแช่เท้า อาบน้ำอุ่น แช่น้ำอุ่น ชมน้ำพุ ชมวิว ชมดอกไม้
0
แม่กำปอง
แม่กำปอง หมู่บ้านแม่กำปองอยู่ใน อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก อยู่บนเนินเขาท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ ลำธาร และน้ำตกอยู่ในตัวหมู่บ้าน จึงสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี ที่นี่ก่อตั้งเมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว ประชากรส่วนใหญ่ อพยพมาจาก อำเภอดอยสะเก็ด เพื่อเข้ามาทำสวนเมี่ยงเป็นอาชีพ และตั้งบ้านเรือนบริเวณใกล้แม่น้ำลำธาร สมัยก่อนมีดอกไม้ชนิดหนึ่ง ลักษณะดอกสีเหลืองแดง ขึ้นอยู่ตามริมลำธาร เรียกว่า ดอกกำปอง จึงเรียกชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ตามชื่อของ ดอกไม้รวม กับแม่น้ำ เป็นบ้านแม่กำปอง การมาท่องเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้สามารถมาได้ทั้งแบบวันเดียว หรือมาพักที่โฮมสเตย์ในหมู่บ้านสักคืนก็ได้บรรยากาศดีไม่น้อย เป็นหมู่บ้านที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีอากาศดีตลอดปี การมาเยือนที่นี่ครั้งเดียวก็คงไม่พอ เดินเล่นตามถนนเส้นหลักไปเรื่อย ๆ จะได้พบเห็นบ้าน และโฮมสเตย์ต่าง ๆ ที่เป็นอาคารไม้อยู่สองข้างทาง บรรยากาศดูอบอุ่นมาก
0
ขุนช่างเคี่ยน
ขุนช่างเคี่ยน ชมดอกพญาเสือโคร่ง ขุนช่างเคี่ยน ซากุระเมืองไทย บานรับหน้าหนาว ชื่อเต็มของสถานที่ชมดอกพญาเสือโคร่งแห่งนี้คือ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน อยู่ในเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ และทางไปดอยปุย ในช่วงหน้าหนาวของทุกปี ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระ เมืองไทย จะบานสะพรั่ง ชมพูสวยงาม ไปทั่วสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน มองไปทางไหนก็ดูสบายตา สวยงามทั้งสองข้างทางถนน ทำให้แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการชมความงามของดอกพญาเสือโคร่ง และถ่ายรูปสวยๆ นั่นเอง
0
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สวนพฤกษศาสตร์สากลแห่งแรกของประเทศไทย เป็นสถานที่รวบรวมพรรณไม้เฉพาะถิ่นและไม้หายากทั้งในและต่างประเทศเพื่อการศึกษาวิจัย และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพืชสำหรับเยาวชนและประชาชนของประเทศ จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ได้แก่ 1. Canopy Walks เส้นทางศึกษาธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ เส้นทางศึกษาธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยระยะทางกว่า 500 เมตร และที่ระดับความสูงเหนือพื้นดินกว่า 20 เมตร มีทัศนียภาพที่สวยงามของทิวยอดไม้ในแบบพาโนราม่า 2. กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ (Glasshouse Complex) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จัดแสดงพรรณไม้ไว้ในโรงเรือนให้คล้ายคลึงกับลักษณะที่พืชขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ 3. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ (Natural Science Museum) เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียนให้ความรู้ทางด้านพืช ธรรมชาติวิทยา ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม 4. ศูนย์เกษตรอินทรีย์ (Organic Learning Center) ตั้งอยู่ในบริเวณเรือนอนุบาลพรรณไม้ของสวนพฤกษศาสตร์ฯ เป็นศูนย์เกษตรอินทรีย์ครบวงจร ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปลูกพืชอินทรีย์ การเตรียมดิน การคัดเมล็ดพันธุ์ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ รวมทั้งการสาธิตการปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร ผักพื้นบ้าน ผักปลอดสารพิษ ที่ผลิตจากการใช้เกษตรอินทรีย์หลากหลายชนิด 5. เส้นทางวัลยชาติ เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทอดยาวไปตามสันเขา มีการจัดปลูกพืชไม้เลื้อยกว่า 250 ชนิด ตลอดสองข้างทาง ระยะทางประมาณ 800 เมตร 6. อุทยานขิง-ข่า เป็นเส้นทางที่ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้ทำการรวบรวมพืชวงศ์ขิง – ข่า ของไทย กว่า 180 ชนิด ซึ่งจัดได้ว่ารวบรวมไว้มากที่สุดในประเทศ 7. เส้นทางสวนรุกขชาติ (Arboretum Trail) เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 600 เมตร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ ท่ามกลางความร่มรื่น และจุดพักผ่อนท่ามกลางสวนสนธรรมชาติ 8. เส้นทางกระสุนพระอินทร์-พระราม (Pill Millipede Trail) เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 400 เมตร ศึกษาระบบนิเวศของป่าที่ผสมผสานระหว่างป่าผลัดใบและไม่ผลัดใบ 9. เส้นทาง Banana Avenue เป็นเส้นทางรวบรวมและจัดแสดงพันธุ์กล้วยที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของประเทศ ภายในพื้นที่ 5 ไร่ 10. น้ำตกแม่สาน้อย (Mae Sa Noi Waterfall) น้ำตกธรรมชาติ ที่ไหลจากลำห้วยแม่สา ผ่านบริเวณด้านหน้าสวนพฤกษศาสตร์ฯ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี
0
One Nimman
One Nimman One Nimman เป็นโครงการ Mixed-Use ในเขตชุมชนใจกลางเมืองเชียงใหม่ จุดประสงค์หลักคือการสร้างถนน และจัตุรัส (Square) สำหรับผู้คน พร้อมกับถนนคนเดินที่มีหลังคากระจก (Galleria) เพื่อบังอาคารจอดรถขนาดใหญ่ซึ่งมีอยู่เดิม โดยทางเดินนี้จะเชื่อมระหว่างจัตุรัส 2 แห่ง ที่ได้รับการออกแบบไว้เข้าด้วยกัน จุดเด่นของโครงการคือจัตุรัส (Public Square) และตลาดสำหรับจัดงานต่าง ๆ โดยตลาดนี้มีต้นแบบมาจาก Market Hall ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 เหตุผลที่เลือกต้นแบบนี้ก็เพราะมีความเรียบง่าย พร้อมทั้งสัดส่วนที่งดงาม โดยมีหอนาฬิกาเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญ
0
ถนนวัวลาย ถนนคนเดินเชียงใหม่
ถนนวัวลาย ถนนคนเดินเชียงใหม่ ถนนวัวลายเป็นถนนศิลปะของเชียงใหม่ เพราะสองข้างทางจะมีร้านจำหน่ายงานศิลปหัตถกรรมล้านนา และมีโบราณสถานตั้งอยู่หลายแห่ง ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเชียงใหม่ ทุกวันเสาร์จะมีถนนคนเดินวัวลาย ซึ่งจะรวมสิ่งที่น่าสนใจไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าศิลปหัตถกรรม, ดนตรีและการแสดงพื้นเมือง, อาหารพื้นเมือง, ของที่ระลึก และ อื่นๆ อีกมากมาย ถนนคนเดินวัวลาย มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถเริ่มเดินจากฝั่งประตูเชียงใหม่ หรือ ฝั่งทิพยเนตรก็ได้ ทั้งสองฝั่งจะเดินทะลุหากันได้ ที่จอดรถค่อนข้างหายาก แนะนำให้นั่งรถโดยสารไป
0

Your STAMM Book

มาสะสม STAMM เพื่อเก็บบันทึกเรื่องราวดีๆ ระหว่างทางกัน

วัดพระธาตุดอยสุเทพ

วัดผาลาด (สกทาคามี)

ดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน อ่างกา

น้ำพุร้อนสันกำแพง

แม่กำปอง

ขุนช่างเคี่ยน

สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

One Nimman

ประตูท่าแพ

ถนนวัวลาย ถนนคนเดินเชียงใหม่

10 Landmark ระดับท็อปเท็นของเชียงใหม่ ที่หากไม่ได้แวะไป ก็เหมือนไม่ได้มาเชียงใหม่เลยก็ว่าได้

วัดพระธาตุดอยสุเทพ

วัดพระธาตุดอยสุเทพ

วัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดในเชียงใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ความโดดเด่นของวัดพระธาตุดอยสุเทพ เริ่มตั้งแต่ทางขึ้นพระธาตุซึ่งเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน และเมื่อเดินเข้าไปภายในวัด จะพบเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูง ย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยม ปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ซึ่งก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา

บริเวณวัดยังเป็นจุดชมวิวเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน และที่วัดพระธาตุดอยสุเทพยังมีการจัดงานประเพณีเตียวขึ้นดอย เพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุเป็นประจำทุกปี โดยจัดขึ้นในช่วงวันวิสาขบูชา ในงานจะมีขบวนแห่น้ำสำหรับสรงพระธาตุ โดยมีพระสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชนจากชุมชนต่าง ๆ มาร่วมขบวนกันอย่างเนืองแน่น

สถานที่ตั้ง : 9 หมู่ที่ 9 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง เชียงใหม่
เวลาทำการ : 6:00–20:00 น.
ติดต่อ : 053-295-012
Facebook :  วัดพระธาตุดอยสุเทพ 
Instagram : วัดพระธาตุดอยสุเทพ 
ขอบคุณข้อมูลจาก :  thai.tourismthailand.org 
ขอบคุณคลิปวิดีโอ:  Made in Thailand

#พระธาตุประจำปีเกิดปีมะแม #พระธาตุคู่เมืองล้านนา #วัดสวยเชียงใหม่ #LandmarkChiangMai
วัดพระธาตุดอยสุเทพ
วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดในเชียงใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ความโดดเด่นของวัดพระธาตุดอยสุเทพ เริ่มตั้งแต่ทางขึ้นพระธาตุซึ่งเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน และเมื่อเดินเข้าไปภายในวัด จะพบเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูง ย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยม ปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ซึ่งก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา บริเวณวัดยังเป็นจุดชมวิวเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน และที่วัดพระธาตุดอยสุเทพยังมีการจัดงานประเพณีเตียวขึ้นดอย เพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุเป็นประจำทุกปี โดยจัดขึ้นในช่วงวันวิสาขบูชา ในงานจะมีขบวนแห่น้ำสำหรับสรงพระธาตุ โดยมีพระสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชนจากชุมชนต่าง ๆ มาร่วมขบวนกันอย่างเนืองแน่น
0
วัดผาลาด (สกทาคามี)

วัดผาลาด (สกทาคามี)

วัดผาลาดเป็นวัดป่า 1ใน 3 วัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย วัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 500 ปี เคยถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าไป แต่ก็ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ให้มีสถานภาพเป็นวัดและสถานที่ปฏิบัติธรรม ส่วนสาเหตุที่ตั้งชื่อว่าวัดผาลาดนั้น ผู้เฒ่า ผู้แก่บางท่านเล่าว่า เดิมเรียกว่า ผะเลิด เพราะคนที่ดินตามช้างมาตามลำธารน้ำตก แล้วเกิดลื่นหกล้มกันหลายคน บ้างก็ว่าช้างก็ลื่นเหมือนกัน จึงให้ชื่อว่าวัดะเลิด ต่อมาเรียกว่าวัดผาลาด ตามชื่อน้ำตก

การเดินทางมาวัดผาลาด ใช้เส้นทางเดียวกับการขึ้นดอยสุเทพ โดยวัดอยู่ห่างจากอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยประมาณ 5 กิโลเมตร ถือเป็นวัดที่มีประวัติยาวนาน มีตำนานเรื่องเล่า และเป็นหนึ่งในวัดที่ร่มรื่นเป็นอย่างมากที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาแวะเที่ยวชมไม่แพ้วัดพระธาตุดอยสุเทพเลย

สถานที่ตั้ง : บ้านห้วยผาลาด 101 ถนนศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง เชียงใหม่
เวลาทำการ : 6:00–18:00 น.
ติดต่อ : 087-645-4390
Facebook :  วัดผาลาด 
Instagram : วัดผาลาด 
ขอบคุณข้อมูลจาก :  chiangmainews.co.th 
ขอบคุณคลิปวิดีโอ:  แปลกเหนือแปลก The Unseenable

#ความสวยงามท่ามกลางธรรมชาติ #พิกัดลับบนดอยสุเทพ #มนเสน่ห์แห่งล้านนา #วัดสวยเชียงใหม่ #LandmarkChiangMai
วัดผาลาด (สกทาคามี)
วัดผาลาด (สกทาคามี) วัดผาลาดเป็นวัดป่า 1ใน 3 วัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย วัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 500 ปี เคยถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าไป แต่ก็ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ให้มีสถานภาพเป็นวัดและสถานที่ปฏิบัติธรรม ส่วนสาเหตุที่ตั้งชื่อว่าวัดผาลาดนั้น ผู้เฒ่า ผู้แก่บางท่านเล่าว่า เดิมเรียกว่า ผะเลิด เพราะคนที่ดินตามช้างมาตามลำธารน้ำตก แล้วเกิดลื่นหกล้มกันหลายคน บ้างก็ว่าช้างก็ลื่นเหมือนกัน จึงให้ชื่อว่าวัดะเลิด ต่อมาเรียกว่าวัดผาลาด ตามชื่อน้ำตก การเดินทางมาวัดผาลาด ใช้เส้นทางเดียวกับการขึ้นดอยสุเทพ โดยวัดอยู่ห่างจากอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยประมาณ 5 กิโลเมตร ถือเป็นวัดที่มีประวัติยาวนาน มีตำนานเรื่องเล่า และเป็นหนึ่งในวัดที่ร่มรื่นเป็นอย่างมากที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาแวะเที่ยวชมไม่แพ้วัดพระธาตุดอยสุเทพเลย ขอบคุณข้อมูลจาก : www.chiangmainews.co.th
0
ดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน อ่างกา

ดอยอินทนนท์  กิ่วแม่ปาน อ่างกา

บนดอยอินทนนท์ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่คนนิยมไปเดิน อยู่ 2 เส้นทาง ได้แก่ 1. เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา และ 2. เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน สองเส้นทางนี้มีระยะทางที่แตกต่างกันพอสมควร เส้นทางฯ อ่างกาเป็นเส้นทางสั้นๆ ใช้เวลา 30-60 นาที ส่วนเส้นทางฯ กิ่วแม่ปานใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง “เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา” อยู่ไม่ไกลจากป้าย “สูงสุดแดนสยาม” ส่วน “กิ่วแม่ปาน” เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เป็นวงรอบระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและ ทะเลหมอกที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของดอยอินทนนท์

สถานที่ตั้ง : ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาทำการ : 06.00-16.00 น.
ติดต่อ : 053-286-728
Facebook :  ดอยอินทนนท์  กิ่วแม่ปาน 
Instagram : ดอยอินทนนท์  กิ่วแม่ปาน 
ขอบคุณข้อมูลจาก :  banloung.go.th 
ขอบคุณคลิปวิดีโอ: JourneyEverywhere

#สูงสุดแดนสยาม #ดอยอินทนนท์ #กิ่วแม่ปาน #อ่างกา #เส้นทางศึกษาธรรมชาติ #LandmarkChiangMai
ดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน อ่างกา
ดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน อ่างกา บนดอยอินทนนท์ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่คนนิยมไปเดิน อยู่ 2 เส้นทาง ได้แก่ 1. เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา และ 2. เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน สองเส้นทางนี้มีระยะทางที่แตกต่างกันพอสมควร เส้นทางฯ อ่างกาเป็นเส้นทางสั้นๆ ใช้เวลา 30-60 นาที ส่วนเส้นทางฯ กิ่วแม่ปานใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง “เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา” อยู่ไม่ไกลจากป้าย “สูงสุดแดนสยาม” ส่วน “กิ่วแม่ปาน” เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เป็นวงรอบระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและ ทะเลหมอกที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของดอยอินทนนท์ ขอบคุณข้อมูลจาก : www.banloung.go.th ขอบคุณรูปภาพจาก :https://travel.kapook.com/view137488.html
0
น้ำพุร้อนสันกำแพง
#น้ำพุร้อนสันกำแพง #Onsen #Hotspring #LandmarkChiangMai

การได้แช่น้ำอุ่นนั้นเป็นความสุขที่หลายคนชื่นชอบและปรารถนา และหากเป็นน้ำแร่ที่ดีต่อสุขภาพด้วยแล้วก็ยิ่งดีมากขึ้น ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยหลายแห่งที่เป็นบ่อน้ำร้อน หรือเป็นน้ำพุร้อน และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้อาบและแช่น้ำอุ่น ซึ่งที่น้ำพุร้อนสันกำแพงก็เช่นกัน น้ำพุร้อนสันกำแพง (San Kamphaeng Hot Springs) จะมีน้ำพุที่พุ่งสูงราว 20 เมตรอยู่ 2 บ่อ ซึ่งมีความร้อนกว่า 100 องศาเซลเซียส แต่ละอองของน้ำพุที่ลมพัดมาสัมผัสเรานั้นจะไม่มีความร้อนเหลือแล้ว

ที่ตั้งของน้ำพุร้อนสันกำแพง เดิมเป็นเขตพื้นที่ของอำเภอสันกำแพง (San Kamphaeng) จังหวัดเชียงใหม่ จึงตั้งชื่อตามนั้น แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงเขตการปกครอง กลายเป็นเขตพื้นที่ของอำเภอแม่ออนแทน แต่ก็ยังใช้ชื่อเก่าเช่นเดิม กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวมักทำเมื่อมาเยือนน้ำพุร้อนก็คือการต้มไข่เพื่อทดสอบความร้อนของน้ำ ลองต้มลองกินกันแล้วก็ลองไปแช่น้ำอุ่นดูบ้าง ซึ่งก็มีให้เลือกแช่หลายแบบ ทั้งนั่งแช่เท้า อาบน้ำอุ่น แช่น้ำอุ่น ชมน้ำพุ ชมวิว ชมดอกไม้

สถานที่ตั้ง : 1 หมู่ที่7  ตำบลบ้านสหกรณ์ อำเภอแม่ออน เชียงใหม่
เวลาทำการ : 7:00–18:00 น.
ติดต่อ : 053-037-101
Facebook :  น้ำพุร้อนสันกำแพง  
Instagram : น้ำพุร้อนสันกำแพง 
ขอบคุณข้อมูลจาก :  thai.tourismthailand.org 
ขอบคุณคลิปวิดีโอ:  น้ําพุร้อนสันกําแพง เชียงใหม่

น้ำพุร้อนสันกำแพง
น้ำพุร้อนสันกำแพง การได้แช่น้ำอุ่นนั้นเป็นความสุขที่หลายคนชื่นชอบและปรารถนา และหากเป็นน้ำแร่ที่ดีต่อสุขภาพด้วยแล้วก็ยิ่งดีมากขึ้น ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยหลายแห่งที่เป็นบ่อน้ำร้อน หรือเป็นน้ำพุร้อน และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้อาบและแช่น้ำอุ่น ซึ่งที่น้ำพุร้อนสันกำแพงก็เช่นกัน น้ำพุร้อนสันกำแพง (San Kamphaeng Hot Springs) จะมีน้ำพุที่พุ่งสูงราว 20 เมตรอยู่ 2 บ่อ ซึ่งมีความร้อนกว่า 100 องศาเซลเซียส แต่ละอองของน้ำพุที่ลมพัดมาสัมผัสเรานั้นจะไม่มีความร้อนเหลือแล้ว ที่ตั้งของน้ำพุร้อนสันกำแพง เดิมเป็นเขตพื้นที่ของอำเภอสันกำแพง (San Kamphaeng) จังหวัดเชียงใหม่ จึงตั้งชื่อตามนั้น แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงเขตการปกครอง กลายเป็นเขตพื้นที่ของอำเภอแม่ออนแทน แต่ก็ยังใช้ชื่อเก่าเช่นเดิม กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวมักทำเมื่อมาเยือนน้ำพุร้อนก็คือการต้มไข่เพื่อทดสอบความร้อนของน้ำ ลองต้มลองกินกันแล้วก็ลองไปแช่น้ำอุ่นดูบ้าง ซึ่งก็มีให้เลือกแช่หลายแบบ ทั้งนั่งแช่เท้า อาบน้ำอุ่น แช่น้ำอุ่น ชมน้ำพุ ชมวิว ชมดอกไม้
0
แม่กำปอง

แม่กำปอง 

หมู่บ้านแม่กำปองอยู่ใน อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก อยู่บนเนินเขาท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ ลำธาร และน้ำตกอยู่ในตัวหมู่บ้าน จึงสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี ที่นี่ก่อตั้งเมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว ประชากรส่วนใหญ่ อพยพมาจาก อำเภอดอยสะเก็ด เพื่อเข้ามาทำสวนเมี่ยงเป็นอาชีพ และตั้งบ้านเรือนบริเวณใกล้แม่น้ำลำธาร สมัยก่อนมีดอกไม้ชนิดหนึ่ง ลักษณะดอกสีเหลืองแดง ขึ้นอยู่ตามริมลำธาร เรียกว่า ดอกกำปอง จึงเรียกชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ตามชื่อของ ดอกไม้รวม กับแม่น้ำ เป็นบ้านแม่กำปอง การมาท่องเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้สามารถมาได้ทั้งแบบวันเดียว หรือมาพักที่โฮมสเตย์ในหมู่บ้านสักคืนก็ได้บรรยากาศดีไม่น้อย

เป็นหมู่บ้านที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีอากาศดีตลอดปี การมาเยือนที่นี่ครั้งเดียวก็คงไม่พอ เดินเล่นตามถนนเส้นหลักไปเรื่อย ๆ จะได้พบเห็นบ้าน และโฮมสเตย์ต่าง ๆ ที่เป็นอาคารไม้อยู่สองข้างทาง บรรยากาศดูอบอุ่นมาก

สถานที่ตั้ง : ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
Facebook :  แม่กำปอง 
Instagram : แม่กำปอง  
ขอบคุณข้อมูลจาก :  gowithampth.com 
ขอบคุณคลิปวิดีโอ:  I GO ON

#แม่กำปอง #LandmarkChiangMai
แม่กำปอง
แม่กำปอง หมู่บ้านแม่กำปองอยู่ใน อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก อยู่บนเนินเขาท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ ลำธาร และน้ำตกอยู่ในตัวหมู่บ้าน จึงสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี ที่นี่ก่อตั้งเมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว ประชากรส่วนใหญ่ อพยพมาจาก อำเภอดอยสะเก็ด เพื่อเข้ามาทำสวนเมี่ยงเป็นอาชีพ และตั้งบ้านเรือนบริเวณใกล้แม่น้ำลำธาร สมัยก่อนมีดอกไม้ชนิดหนึ่ง ลักษณะดอกสีเหลืองแดง ขึ้นอยู่ตามริมลำธาร เรียกว่า ดอกกำปอง จึงเรียกชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ตามชื่อของ ดอกไม้รวม กับแม่น้ำ เป็นบ้านแม่กำปอง การมาท่องเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้สามารถมาได้ทั้งแบบวันเดียว หรือมาพักที่โฮมสเตย์ในหมู่บ้านสักคืนก็ได้บรรยากาศดีไม่น้อย เป็นหมู่บ้านที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีอากาศดีตลอดปี การมาเยือนที่นี่ครั้งเดียวก็คงไม่พอ เดินเล่นตามถนนเส้นหลักไปเรื่อย ๆ จะได้พบเห็นบ้าน และโฮมสเตย์ต่าง ๆ ที่เป็นอาคารไม้อยู่สองข้างทาง บรรยากาศดูอบอุ่นมาก
0
ขุนช่างเคี่ยน

ขุนช่างเคี่ยน

ชมดอกพญาเสือโคร่ง ขุนช่างเคี่ยน ซากุระเมืองไทย บานรับหน้าหนาว ชื่อเต็มของสถานที่ชมดอกพญาเสือโคร่งแห่งนี้คือ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน อยู่ในเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ และทางไปดอยปุย ในช่วงหน้าหนาวของทุกปี ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระ เมืองไทย จะบานสะพรั่ง ชมพูสวยงาม ไปทั่วสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน มองไปทางไหนก็ดูสบายตา สวยงามทั้งสองข้างทางถนน ทำให้แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการชมความงามของดอกพญาเสือโคร่ง และถ่ายรูปสวยๆ นั่นเอง

สถานที่ตั้ง : ตำบลดอนแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ติดต่อ : 053-222-014
Facebook :  ขุนช่างเคี่ยน  
Instagram : ขุนช่างเคี่ยน 
ขอบคุณข้อมูลจาก travel.trueid.net  
ขอบคุณคลิปวิดีโอ:  We Journey 

#ขุนช่างเคี่ยน #พญาเสือโคร่ง #LandmarkChiangMai
ขุนช่างเคี่ยน
ขุนช่างเคี่ยน ชมดอกพญาเสือโคร่ง ขุนช่างเคี่ยน ซากุระเมืองไทย บานรับหน้าหนาว ชื่อเต็มของสถานที่ชมดอกพญาเสือโคร่งแห่งนี้คือ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน อยู่ในเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ และทางไปดอยปุย ในช่วงหน้าหนาวของทุกปี ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระ เมืองไทย จะบานสะพรั่ง ชมพูสวยงาม ไปทั่วสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน มองไปทางไหนก็ดูสบายตา สวยงามทั้งสองข้างทางถนน ทำให้แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการชมความงามของดอกพญาเสือโคร่ง และถ่ายรูปสวยๆ นั่นเอง
0
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 

สวนพฤกษศาสตร์สากลแห่งแรกของประเทศไทย เป็นสถานที่รวบรวมพรรณไม้เฉพาะถิ่นและไม้หายากทั้งในและต่างประเทศเพื่อการศึกษาวิจัย และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพืชสำหรับเยาวชนและประชาชนของประเทศ จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ได้แก่

1. Canopy Walks เส้นทางศึกษาธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ เส้นทางศึกษาธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยระยะทางกว่า 500 เมตร และที่ระดับความสูงเหนือพื้นดินกว่า 20 เมตร มีทัศนียภาพที่สวยงามของทิวยอดไม้ในแบบพาโนราม่า
2. กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ (Glasshouse Complex) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จัดแสดงพรรณไม้ไว้ในโรงเรือนให้คล้ายคลึงกับลักษณะที่พืชขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ
3. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ (Natural Science Museum) เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียนให้ความรู้ทางด้านพืช ธรรมชาติวิทยา ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม
4. ศูนย์เกษตรอินทรีย์ (Organic Learning Center) ตั้งอยู่ในบริเวณเรือนอนุบาลพรรณไม้ของสวนพฤกษศาสตร์ฯ เป็นศูนย์เกษตรอินทรีย์ครบวงจร ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปลูกพืชอินทรีย์ การเตรียมดิน การคัดเมล็ดพันธุ์ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ รวมทั้งการสาธิตการปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร ผักพื้นบ้าน ผักปลอดสารพิษ ที่ผลิตจากการใช้เกษตรอินทรีย์หลากหลายชนิด
5. เส้นทางวัลยชาติ เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทอดยาวไปตามสันเขา มีการจัดปลูกพืชไม้เลื้อยกว่า 250 ชนิด ตลอดสองข้างทาง ระยะทางประมาณ 800 เมตร
6. อุทยานขิง-ข่า เป็นเส้นทางที่ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้ทำการรวบรวมพืชวงศ์ขิง – ข่า ของไทย กว่า 180 ชนิด ซึ่งจัดได้ว่ารวบรวมไว้มากที่สุดในประเทศ
7. เส้นทางสวนรุกขชาติ (Arboretum Trail) เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 600 เมตร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ ท่ามกลางความร่มรื่น และจุดพักผ่อนท่ามกลางสวนสนธรรมชาติ
8. เส้นทางกระสุนพระอินทร์-พระราม (Pill Millipede Trail) เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 400 เมตร ศึกษาระบบนิเวศของป่าที่ผสมผสานระหว่างป่าผลัดใบและไม่ผลัดใบ
9. เส้นทาง Banana Avenue เป็นเส้นทางรวบรวมและจัดแสดงพันธุ์กล้วยที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของประเทศ ภายในพื้นที่ 5 ไร่
10. น้ำตกแม่สาน้อย (Mae Sa Noi Waterfall) น้ำตกธรรมชาติ ที่ไหลจากลำห้วยแม่สา ผ่านบริเวณด้านหน้าสวนพฤกษศาสตร์ฯ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี

สถานที่ตั้ง : 100 หมู่ 9 ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม เชียงใหม่
เวลาทำการ : 8:30–16:30 น.
ติดต่อ : 053-841-234
Website: qsbg.org 
Facebook :  สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 
Instagram : สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 
ขอบคุณข้อมูลจาก :  th.wikipedia.org 
ขอบคุณคลิปวิดีโอ:  KenAndEsther Official

#สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ #LandmarkChiangMai
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สวนพฤกษศาสตร์สากลแห่งแรกของประเทศไทย เป็นสถานที่รวบรวมพรรณไม้เฉพาะถิ่นและไม้หายากทั้งในและต่างประเทศเพื่อการศึกษาวิจัย และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพืชสำหรับเยาวชนและประชาชนของประเทศ จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ได้แก่ 1. Canopy Walks เส้นทางศึกษาธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ เส้นทางศึกษาธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยระยะทางกว่า 500 เมตร และที่ระดับความสูงเหนือพื้นดินกว่า 20 เมตร มีทัศนียภาพที่สวยงามของทิวยอดไม้ในแบบพาโนราม่า 2. กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ (Glasshouse Complex) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จัดแสดงพรรณไม้ไว้ในโรงเรือนให้คล้ายคลึงกับลักษณะที่พืชขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ 3. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ (Natural Science Museum) เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียนให้ความรู้ทางด้านพืช ธรรมชาติวิทยา ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม 4. ศูนย์เกษตรอินทรีย์ (Organic Learning Center) ตั้งอยู่ในบริเวณเรือนอนุบาลพรรณไม้ของสวนพฤกษศาสตร์ฯ เป็นศูนย์เกษตรอินทรีย์ครบวงจร ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปลูกพืชอินทรีย์ การเตรียมดิน การคัดเมล็ดพันธุ์ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ รวมทั้งการสาธิตการปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร ผักพื้นบ้าน ผักปลอดสารพิษ ที่ผลิตจากการใช้เกษตรอินทรีย์หลากหลายชนิด 5. เส้นทางวัลยชาติ เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทอดยาวไปตามสันเขา มีการจัดปลูกพืชไม้เลื้อยกว่า 250 ชนิด ตลอดสองข้างทาง ระยะทางประมาณ 800 เมตร 6. อุทยานขิง-ข่า เป็นเส้นทางที่ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้ทำการรวบรวมพืชวงศ์ขิง – ข่า ของไทย กว่า 180 ชนิด ซึ่งจัดได้ว่ารวบรวมไว้มากที่สุดในประเทศ 7. เส้นทางสวนรุกขชาติ (Arboretum Trail) เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 600 เมตร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ ท่ามกลางความร่มรื่น และจุดพักผ่อนท่ามกลางสวนสนธรรมชาติ 8. เส้นทางกระสุนพระอินทร์-พระราม (Pill Millipede Trail) เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 400 เมตร ศึกษาระบบนิเวศของป่าที่ผสมผสานระหว่างป่าผลัดใบและไม่ผลัดใบ 9. เส้นทาง Banana Avenue เป็นเส้นทางรวบรวมและจัดแสดงพันธุ์กล้วยที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของประเทศ ภายในพื้นที่ 5 ไร่ 10. น้ำตกแม่สาน้อย (Mae Sa Noi Waterfall) น้ำตกธรรมชาติ ที่ไหลจากลำห้วยแม่สา ผ่านบริเวณด้านหน้าสวนพฤกษศาสตร์ฯ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี
0
One Nimman

One Nimman

One Nimman เป็นโครงการ Mixed-Use ในเขตชุมชนใจกลางเมืองเชียงใหม่ จุดประสงค์หลักคือการสร้างถนน และจัตุรัส (Square) สำหรับผู้คน พร้อมกับถนนคนเดินที่มีหลังคากระจก (Galleria) เพื่อบังอาคารจอดรถขนาดใหญ่ซึ่งมีอยู่เดิม โดยทางเดินนี้จะเชื่อมระหว่างจัตุรัส 2 แห่ง ที่ได้รับการออกแบบไว้เข้าด้วยกัน

จุดเด่นของโครงการคือจัตุรัส (Public Square) และตลาดสำหรับจัดงานต่าง ๆ โดยตลาดนี้มีต้นแบบมาจาก Market Hall ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 เหตุผลที่เลือกต้นแบบนี้ก็เพราะมีความเรียบง่าย พร้อมทั้งสัดส่วนที่งดงาม โดยมีหอนาฬิกาเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญ

สถานที่ตั้ง : แยกรินคำ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่
เวลาทำการ : 10:00–22:00 น.
ติดต่อ : 052-080-900
Website : onenimman.com 
Facebook : One Nimman 
Instagram : One Nimman 
ขอบคุณข้อมูลจาก : baanlaesuan.com 
ขอบคุณคลิปวิดีโอ:  สุขกับการกิน

#One Nimman #LandmarkChiangMai
One Nimman
One Nimman One Nimman เป็นโครงการ Mixed-Use ในเขตชุมชนใจกลางเมืองเชียงใหม่ จุดประสงค์หลักคือการสร้างถนน และจัตุรัส (Square) สำหรับผู้คน พร้อมกับถนนคนเดินที่มีหลังคากระจก (Galleria) เพื่อบังอาคารจอดรถขนาดใหญ่ซึ่งมีอยู่เดิม โดยทางเดินนี้จะเชื่อมระหว่างจัตุรัส 2 แห่ง ที่ได้รับการออกแบบไว้เข้าด้วยกัน จุดเด่นของโครงการคือจัตุรัส (Public Square) และตลาดสำหรับจัดงานต่าง ๆ โดยตลาดนี้มีต้นแบบมาจาก Market Hall ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 เหตุผลที่เลือกต้นแบบนี้ก็เพราะมีความเรียบง่าย พร้อมทั้งสัดส่วนที่งดงาม โดยมีหอนาฬิกาเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญ
0
ประตูท่าแพ

 ประตูท่าแพ

ประตูท่าแพ เป็นหนึ่งจุดเช็คอินไฮไลท์ของจังหวัด ถ้าไม่มาก็ไม่ถึงเชียงใหม่ เป็นจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพเดินผ่านฝูงนกพิราบที่บินผ่านตัวไปมา หรือแนบพิงอิงกำแพงอิฐสีส้มและประตูสวยงามที่มีเก่าแก่และมีความขลัง โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็นที่มีแสงส่องกระทบลงมาบริเวณกำแพง จะสวยงามมาก  บริเวณรอบกำแพงตกแต่งดี ดูโล่งสะอาดตา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คุณสาวๆมักแต่งตัวมาเพื่อถ่ายรูปที่จุดนี้ ประตูท่าแพ เป็นประตูเมืองเพียงแห่งเดียวที่มีบานประตู และเป็นจุดตั้งต้นของถนนคนเดินท่าแพในวันอาทิตย์ อีกทั้งยังเป็นลานจัดกิจกรรมประเพณีต่างๆ ของเมืองเชียงใหม่

สถานที่ตั้ง : ประตูท่าแพ ถนนท่าแพ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่
Facebook : ประตูท่าแพ 
Instagram : ประตูท่าแพ 
ขอบคุณข้อมูลจาก : paiduaykan.com
ขอบคุณคลิปวิดีโอ:  JourneyDD

#ประตูท่าแพ #LandmarkChiangMai
ถนนวัวลาย ถนนคนเดินเชียงใหม่

ถนนวัวลาย ถนนคนเดินเชียงใหม่

ถนนวัวลายเป็นถนนศิลปะของเชียงใหม่ เพราะสองข้างทางจะมีร้านจำหน่ายงานศิลปหัตถกรรมล้านนา และมีโบราณสถานตั้งอยู่หลายแห่ง ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเชียงใหม่
ทุกวันเสาร์จะมีถนนคนเดินวัวลาย ซึ่งจะรวมสิ่งที่น่าสนใจไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าศิลปหัตถกรรม, ดนตรีและการแสดงพื้นเมือง, อาหารพื้นเมือง, ของที่ระลึก และ อื่นๆ อีกมากมาย
ถนนคนเดินวัวลาย มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถเริ่มเดินจากฝั่งประตูเชียงใหม่ หรือ ฝั่งทิพยเนตรก็ได้ ทั้งสองฝั่งจะเดินทะลุหากันได้ ที่จอดรถค่อนข้างหายาก แนะนำให้นั่งรถโดยสารไป

สถานที่ตั้ง : ถนนวัวลาย ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่
เวลาทำการ : 17.00-23.00 น.
ติดต่อ : 088-187-7778
Facebook : ถนนวัวลาย
Instagram : ถนนวัวลาย 
ขอบคุณข้อมูลจาก : facebook.com 
ขอบคุณคลิปวิดีโอ:  Beerทริป

#ถนนวัวลาย #ถนนคนเดินเชียงใหม่ #LandmarkChiangMai
ถนนวัวลาย ถนนคนเดินเชียงใหม่
ถนนวัวลาย ถนนคนเดินเชียงใหม่ ถนนวัวลายเป็นถนนศิลปะของเชียงใหม่ เพราะสองข้างทางจะมีร้านจำหน่ายงานศิลปหัตถกรรมล้านนา และมีโบราณสถานตั้งอยู่หลายแห่ง ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเชียงใหม่ ทุกวันเสาร์จะมีถนนคนเดินวัวลาย ซึ่งจะรวมสิ่งที่น่าสนใจไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าศิลปหัตถกรรม, ดนตรีและการแสดงพื้นเมือง, อาหารพื้นเมือง, ของที่ระลึก และ อื่นๆ อีกมากมาย ถนนคนเดินวัวลาย มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถเริ่มเดินจากฝั่งประตูเชียงใหม่ หรือ ฝั่งทิพยเนตรก็ได้ ทั้งสองฝั่งจะเดินทะลุหากันได้ ที่จอดรถค่อนข้างหายาก แนะนำให้นั่งรถโดยสารไป
0

พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน

ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น

10 Landmark เชียงใหม่ ไม่ไปคือพลาด!
#The Localized

10 Landmark ระดับท็อปเท็นของเชียงใหม่ ที่หากไม่ได้แวะไป ก็เหมือนไม่ได้มาเชียงใหม่เลยก็ว่าได้